ยาต้านไวรัสโควิด-19 ของ Merck เป็นบริษัทที่ 2 ที่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา แม้ยาอาจยังไม่ได้มีประสิทธิภาพมากเท่ากับบริษัทคู่แข่งอย่างไฟเซอร์ก็ตาม

"ถึงจะไม่ได้ดีเท่าของ Pfizer แต่ก็ใช้แทนกันก่อนได้"

ตามรายงานของ Associated Press สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้อนุญาตให้ใช้ยาเม็ด Molnupiravir ของ Merck ในกรณีฉุกเฉิน การรักษาจำกัดการจำลองแบบของ SARS-CoV-2 โดยการแทรก "ข้อผิดพลาด" ลงในรหัสพันธุกรรมของไวรัสในขณะที่การติดเชื้อยังค่อนข้างน้อย ซึ่งเป็นการดีที่จะป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยเกิดอาการรุนแรง โดยเฉพาะกับในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง

อย่างไรก็ตาม ยาอาจใช้ไม่ได้มากเท่ากับ Paxlovid ของ Pfizer โดย Merck จะมีให้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เมื่อเทียบกับ Pfizer นั้นจะสำหรับอายุ 12 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีความกังวลว่าอาจส่งผลต่อการพัฒนากระดูกและกระดูกอ่อนในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า  นอกจากนี้ยังมีคำเตือนไม่ให้ใช้ในระหว่างตั้งครรภ์หรือขณะพยายามตั้งครรภ์ – องค์การอาหารและยากล่าวว่าผู้คนควรใช้การคุมกำเนิดทั้งในระหว่างและหลังการรักษาโดยผู้หญิงรอวันและผู้ชายรอสามเดือน

Molnupiravir ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่ากับ Paxlovid  แม้ว่าโซลูชันของ
 Pfizer จะลดการเข้ารักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ Merck นั้นกลับได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้นยาเม็ดนี้อาจกลายเป็นตัวเลือกรอง ทว่าผลิตภัณฑ์ของทั้งสองบริษัทจะยังคงมีผลบังคับใช้กับตัวแปร Omicron ของไวรัส เนื่องจากไม่ได้กำหนดเป้าหมายไปที่โปรตีนขัดขวางการกลายพันธุ์

"รวดเร็ว ทันใจ เรียบร้อย มะกันมั่นใจจะช่วยป้องกันลดจำนวนผู้ป่วยหนักได้ดี"

อย่างไรก็ตาม นี่อาจกลายเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งในการลดจำนวนการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19  เม็ดยาของไฟเซอร์จะพร้อมใช้มากที่สุดเมื่อสหรัฐฯ สั่งซื้อมากพอที่จะรักษาผู้ป่วย 10 ล้านคน แต่ยาของเมอร์คจะมีเพียงพอสำหรับ 3.1 ล้านคน แม้ว่าประสิทธิภาพจะจำกัด แต่ก็สามารถช่วยคนหลายแสนคนให้พ้นจากโรคร้ายแรงได้