"รัฐบาลแคนาดาพร้อมพัฒนานำเข้าเทคโนโลยีใหม่ ขนส่งพลังงานไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก"

ระบบขนส่งมวลชนของแคนาดานั้นหยุดชะงักลงมีผู้ใช้งานน้อยลงมากในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่แคนาดาก็ยังมองว่าการพัฒนาเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นจำเป็น โดยสิ่งนี้จะต้องพร้อมเมื่อวิกฤตดังกล่าวนี้สิ้นสุดลง รัฐบาลแคนาดาจึงวางแผนที่จะลงทุน กว่า 2.75 พันล้านดอลลาร์แคนาดา ในด้านระบบขนส่งสาธารณะให้กลายเป็นระบบของส่งด้วยพลังงานไฟฟ้าภายในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ไป ซึ่งรถโดยสารประเภทนี้จะไม่มีการปล่อยมลพิษออกมา

"นอกจากเปลี่ยนรูปแบบพลังงานแล้วยังถือโอกาส ขยายขนาดรถเพื่อจะได้ขนส่งได้มากขึ้น"

นอกจากการที่พยายามพัฒนาอัพเกรดระบบขนส่งสาธารณะนี้แล้วก็ยังถือโอกาสเพิ่มขนาดของรถโดยสารให้มีความจุมากกว่ารูปแบบเดิมที่ใช้ไปพร้อม ๆ กันในโครงการนี้ด้วยซึ่งการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของรัฐบาลแดนาดานั้นก็จะช่วงสร้างระบบงานของเหล่าผู้ผลิตในกลุ่มพลังงานสีเขียวไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย

"ความท้าทายใหญ่คือสภาพประชากรโดยรวมนั้นอยู่กันกระจุกในเมืองใหญ่อาจจะทำให้โครงการนี้ไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีพอ แต่รัฐก็พร้อมทำเพื่อประชาชน"

แน่นอนว่าโครงการนี้นับเป็นการท้าทายที่ใหญ่หลวงโดยรัฐเสี่ยงที่จะขาดทุนจากโครงการนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากประชากรในแคนาดานั้นมักกระจุกตัวกันอยู่เพียงในเมืองใหญ่เท่าน้น เงินอาจจะไม่สามารถกระจายออกไปได้โดยรอบแต่นี่ก็นับว่าเป็นตัวอย่างการนำร่องให้หลาย ๆ ประเทศนั้นหันมาพัฒนารับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในประเทศ

ที่มา : Engadget