9 อาการตั้งครรภ์ของคุณแม่มือใหม่ที่ต้องเผชิญ

96 VIEWS

February 7, 2024

mom-child

อาการตั้งครรภ์มีหลายอย่างที่คุณแม่มือใหม่อาจเผชิญหน้ากับตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ ต่อไปนี้คือบางอาการที่พบบ่อย

คลื่นไส้และการอาเจียน


อาการนี้มักเกิดในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์ บางครั้งเกิดได้ทุกเวลาหรือเฉพาะในช่วงเช้า ทำให้คุณแม่มือใหม่รู้สึกอ่อนเพลียได้คลื่นไส้และการอาเจียนเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนท้อง ซึ่งสามารถมีหลายสาเหตุได้ เช่นการมีเครื่องอาหารที่ไม่ดี อาหารที่เป็นภาวะเสี่ยง เช่น อาหารที่มีการปนเปื้อนแบคทีเรีย โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน โรคระบบภูมิคุ้มกันที่เข้มข้นไป (autoimmune disorders) เช่น โรคเริมาแทอุส ไตรบัน JIA…

วิธีแก้ไขอาการคลื่นไส้และการอาเจียนขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ ดังนี้

1. การดูแลระบบอาหาร

อาหารที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ควรรับประทานอาหารที่เป็นส่วนผสมของผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไขมันไม่เยอะ เช่น อาหารที่ตุ๋นน้อยลง และฟื้นฟูระบบการย่อยอาหาร เช่น รับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต หรือสับปะรด บุหรี่นอกจากไม่ดีต่อระบบทางเดินอาหารแล้ว ยังเป็นสาเหตุให้เกิดการคลื่นไส้และอาเจียน เราควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

2. การจัดการความเครียดและภาวะเครียด

การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายหรือวิธีการผ่อนคลายอื่น ๆ อาจช่วยลดการคลื่นไส้และอาเจียนที่เกิดจากภาวะเครียด
เทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหากระท้อนหายใจ, การปฎิบัติตัวแบบมินด์ฟูลเนส, การฝึกสมาธิ
การจัดการภาวะเครียด การใช้เทคนิคการจัดการความเครียด รวมถึงการฝึกสมาธิ หรือการพูดคุยกับท่านใกล้ชิดหรือคนที่ไว้วางใจ

3. การปรับปรุงการย่อยอาหาร

ควรรับประทานอาหารในสุขลักษณะใกล้เคียงกัลเม็ด และลดส่วนมากของอาหารที่มีไขมันสูง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่รสเปรี้ยว และอาหารที่มีสมุนไพรและเครื่องเทศมากเกินไป การรักษาอาการร่วม ถ้าคุณรับประทานยาอื่น ๆ เช่น ยารักษาการคลื่นไส้ สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อดูว่ายาที่คุณกำลังรับกับยาตัวอื่นซ้อนกันได้บ้างหรือไม่
สำหรับคนที่ประสบปัญหาคลื่นไส้และการอาเจียนอย่างต่อเนื่อง หรือมีอาการที่รุนแรงและไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม




อาการท้องอืดและท้องอืด


คุณแม่มือใหม่อาจพบว่ามีการท้องอืดและอาการท้องอืดในระยะต้นของการตั้งครรภ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่เกิดขึ้นอาการท้องอืดและท้องอืดของคนท้องเป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงอายุการตั้งครรภ์ อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง การขยายผนังกระเพาะอาหารเพื่อให้ได้รับสารอาหารเพียงพอและความเคลื่อนไหวของลำไส้ที่เพิ่มขึ้น ที่นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนเพศและระดับน้ำตาลในเลือดที่ขึ้นลงก็สามารถส่งผลกระทบให้เกิดอาการท้องอืดและท้องอืดได้

สาเหตุของอาการท้องอืดและท้องอืด

1. การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเพศหญิง ขณะตั้งครรภ์ระดับฮอร์โมนเพศหญิงที่เพิ่มขึ้นในร่างกายอาจส่งผลให้ขับถ่ายมีปัญหา ทำให้เกิดอาการท้องอืดและท้องอืด

2. การขยายผนังกระเพาะอาหาร ในระหว่างการตั้งครรภ์ผนังกระเพาะอาหารจะต้องขยายตัวเพื่อจัดสรรพื้นที่ให้กับรายการอาหารเพิ่มเติมในกระเพาะอาหาร

3. การขยายผนังนี้อาจส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดและท้องอืด การเคลื่อนไหวของลำไส้: ผู้ที่มีการเคลื่อนไหวของลำไส้ที่มากขึ้นอาจทำให้เกิดการยืดหยุ่นที่ทำให้เกิดอาการท้องอืดและท้องอืด

วิธีแก้ไขอาการท้องอืดและท้องอืด

1. รับประทานอาหารที่เหมาะสม ควรทานอาหารที่มีประโยชน์และมีโภชนาการเพียงพอ เช่น ผักและผลไม้สด โปรตีนจากแหล่งที่ดี เช่น ไข่ ถั่ว และเนื้อสัตว์ที่ต่อเนื่อง

2. รับประทานอาหารเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง ควรรับประทานอาหารจำนวนน้อยแต่บ่อยครั้งเพื่อลดความดันที่ลำไส้และกระเพาะอาหารขึ้น

3. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้อาการท้องอืดและท้องอืดแย่ขึ้น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดอาการท้องอืดและท้องอืด เช่น อาหารที่แช่เอาไว้นาน อาหารที่มีส่วนผสมของไข่ที่ไม่สดและนมที่ไม่สด เป็นต้น

4. รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเพียงพอ เส้นใยสามารถช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถลดการท้องอืดและท้องอืดได้

5. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณกากน้ำตาลสูง เครื่องดื่มแบบนี้อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดและท้องอืด
อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการท้องอืดและท้องอืดที่รุนแรงหรือร่วมไปด้วยอาการอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง



การเพิ่มน้ำหนัก


คนท้องที่เพิ่มน้ำหนักมากเกินไปสามารถมีหลายสาเหตุ ต่อไปนี้คือบางสาเหตุที่อาจทำให้คนท้องเพิ่มน้ำหนักได้

1. การบริโภคอาหารเพิ่มขึ้น การรับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูงเกินไปและอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้.

2. สภาวะสตรีเจริญพันธ์ไม่ปกติ สภาวะต่างๆ เช่น ข้อต่อไม่ค่อยไปกันมากพอหรือมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนทำให้ลำไส้ชะงัก หรือต่อไตไม่ได้รับการทำงานด้วยปกติ อาจทำให้เกิดการปรับสมดุลต่างๆ เช่น คัดเลือกของอาหารไม่ถูกต้อง เชื้อรานี่งต่างๆ เด่นพบก็เพิ่มขึ้น

3. สภาวะสุขภาพที่ไม่ดี ปัญหาสุขภาพเช่นโรคต่างๆ อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน หรือกิจกรรมการเผาผลาญพลังงานที่ลดลง ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

4. การเคลื่อนไหวน้อย พฤติกรรมที่ไม่เคลื่อนไหวมากพอหรือออกกำลังกายน้อย อาจทำให้มีการเผาผลาญพลังงานน้อยลง และเป็นสาเหตุในการเพิ่มน้ำหนัก

วิธีแก้ไขหรือลดน้ำหนักของคนท้องได้ในลักษณะต่อไปนี้

1. ควบคุมอาหาร รับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูงอย่างยั่งยืน เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ ลดการบริโภคอาหารที่มีแป้งหรือน้ำตาลสูง เลือกอาหารที่มีประโยชน์เช่น โปรตีนสูง เส้นใย และไขมันไม่อิ่มตัว

2. ออกกำลังกาย ควรเสริมซ้อมและปฏิบัติการกายออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อาจเลือกท่าออกกำลังกายที่เน้นการเพิ่มความหนักด้วย เช่น เล่นกีฬา เดินเร็ว เต้นแอโรบิค หรือยกบาร์เบลล์

3. บริหารจัดการสุขภาพ หากภาวะสุขภาพที่มีอาการเป็นรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

4. สนับสนุนจากผู้รู้รอบข้าง ควรหาคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่พร้อมที่จะสนับสนุนในการลดน้ำหนักและสุขภาพที่ดีของคุณ

คำแนะนำด้านบนเป็นแนวทางที่สามารถใช้เป็นแนวทางหลักในการลดน้ำหนักของคนท้องที่มีน้ำหนักเกิน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนดำเนินการลดน้ำหนักเพื่อประโยชน์และความปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณ

การเปลี่ยนแปลงในรูปร่างของร่างกาย


การเปลี่ยนแปลงในรูปร่างของร่างกายของคนท้องเกิดจากการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ซึ่งมีอาการและสาเหตุที่แตกต่างกันไปตามระยะการตั้งครรภ์ ดังนี้

ระยะแรก (1-3 เดือน)

1. อาการ อาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาการเบื่ออาหาร เป็นอาการที่พบได้บ่อยในระยะนี้

2. สาเหตุ การเจริญเติบโตของทารกในระยะนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบฮอร์โมนและระบบศีรษะและส่วนล่าง

3. วิธีแก้ไข ควรพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ทันสมัยและคุณภาพดี เลือกอาหารที่เป็นประโยชน์ให้กับทารกและปรับเปลี่ยนแบบการรับประทานอาหาร

ระยะกลาง (4-6 เดือน)

1. อาการ เพิ่มขนาดของท้อง รู้สึกการเต้นของทารก รับรู้การเจริญเติบโตของทารก

2. สาเหตุ ในระยะนี้ทารกจะเริ่มเจริญเติบโตมากขึ้น รวมทั้งเริ่มมีกล้ามเนื้อและกระดูกที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก

3. วิธีแก้ไข ควรทำการออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเต้นรัดเพลง เพื่อรักษาสมดุลการเจริญเติบโตของร่างกาย ควรเลือกผ้าที่หรูหราที่ไม่เคลื่อนไหว

ระยะสุดท้าย (7-9 เดือน)

1. อาการ เพิ่มขนาดของท้องอย่างมาก ความรู้สึกที่เต้นของทารกจะเพิ่มขึ้น รับรู้การเจริญเติบโตของทารกบนหน้าอก

2. สาเหตุ ระหว่างระยะเวลานี้ทารกจะเริ่มเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาของระบบทั่วไป และเตรียมตัวสำหรับตอนใหญ่

วิธีแก้ไข ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกทำงานที่เป็นพิมพ์เมาส์โดยไม่รู้สึกเบื่อ งดงานหนักและช้อปปิ้ง

การดูแลรักษาตนเองในระหว่างการตั้งครรภ์นอกจากการประคองอาหารที่เหมาะสมแล้ว ยังควรมีการออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาอื่นๆ และตามคำแนะนำจากแพทย์เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งแม่และทารก



อาการลำไส้ตีบ


ในระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์, มีโอกาสที่คุณจะรู้สึกถึงอาการลำไส้ตีบเนื่องจากการดันของมดลูกอาการลำไส้ตีบเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนท้องและสามารถมีสาเหตุมากมายตั้งแต่สาเหตุที่เกี่ยวข้องกับอาหารและการย่อย ไปจนถึงสาเหตุทางจิตเวชและสภาวะทางสมอง นี่คือบางสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการลำไส้ตีบได้

1. การรับประทานอาหารและการย่อย บางครั้งการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมหรือมีปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดการตีบลำไส้เนื่องจากท้องผูก อาหารที่รวมถึงอาหารที่รวดเร็วโดยไม่มีเส้นใย อาหารที่พบส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้มีอยู่เช่น อาหารหวาน อาหารมัน อาหารคลีน นมเปรี้ยว อาหารที่มีปริมาณใหญ่ของแป้ง และอาหารที่มีฟันบอกเพียงเล็กน้อย

2. ภาวะทางจิตเวชและสภาพจิตใจ ภาวะเครียด ซึ่งอาจกระทบต่อกล้ามเนื้อในลำไส้และทำให้เกิดการตีบลำไส้ได้

3. อาการแพ้ คนท้องมีโอกาสสูงที่จะพบกับอาการแพ้ ซึ่งอาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่เป็นแพนโลป์ ผลไม้ที่มีเนื้อที่เข้มข้นหรือสูงขึ้น และอาหารที่มีปริมาณสารเคมีสูง เช่น ผลไม้ที่มีสารเปรี้ยว ผลไม้สดในรสเปรี้ยว

การแก้ไขอาการลำไส้ตีบของคนท้องสามารถทำได้ดังนี้

1. รับประทานอาหารที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่มีมากกว่าเส้นใย มีฟักทอง ผักบุ้ง ผักกาดเขียว และผักที่มีสีเขียวเข้ม เพราะสามารถช่วยลดอาการลำไส้ตีบได้

2. บริหารจิตใจ การลดความเครียดและวิธีการควบคุมอารมณ์ เช่น การปฏิบัติตัวเพื่อรักษาสภาพจิตใจที่สมดุล

3. ความสมดุลของแร่ธาตุ สารอาหารเสริมที่บรรจุแร่ธาตุเช่น เหล็ก เหล็กแฟร์รัม และแคลเซียมอาจมีประโยชน์ในการช่วยลดอาการลำไส้ตีบ

4. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินเร็ว โยคะ หรือการหมุนตัว เช่น การทำคลาศหรือยกขา สามารถช่วยชำระลำไส้และช่วยลดอาการลำไส้ตีบได้

5. ขอคำปรึกษาจากแพทย์ หากอาการลำไส้ตีบไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น คุณควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม

หมายเหตุ: การเปลี่ยนแปลงสมมติฐานได้และอาจดูเหมือนคุณสมบัติของสถานการณ์เฉพาะ การแจ้งเตือนเพื่อเฉพาะบุคคลในการตรวจสอบอาการและการวินิจฉัยภาวะโรคที่เป็นไปได้ควรดำเนินการ สำหรับสภาวะฉุกเฉินหรือเวียนฉัยตนเองและการวินิจฉัยอาการผู้ป่วยควรให้คำแนะนำให้แพทย์ที่เข้าใจ-บริการและเครือข่ายที่ดูแลรักษาเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของคุณ



อาการอ่อนเพลียและง่วงนอน


ในระยะแรก, คุณแม่มือใหม่อาจรู้สึกอ่อนเพลียและมีความง่วงนอนมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและการปรับตัวของร่างกาย

อาการอ่อนเพลียและง่วงนอนเป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงครรภ์ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้แก่

1. การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน ระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายของผู้หญิงจะปรับตัวเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเพศหญิง เช่น โปรเจสเทอโรน และโอเคซิน ที่ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลียและง่วงนอนได้

2. การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือด การมีฮอร์โมนเพิ่มขึ้นอาจทำให้ร่างกายกระตุ้นการใช้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น และทำให้รากฐานของชีวิตในร่างกายลดลง ส่งผลให้เกิดความหิวเฉียบพลัน และเหนื่อยล้า

วิธีแก้ไขอาการอ่อนเพลียและง่วงนอนของคนท้อง

1. การเพิ่มปริมาณการทานอาหารที่มีประโยชน์ แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และนมแม่ ที่มีปริมาณและคุณภาพอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

2. การรับประทานอาหารตามความต้องการของร่างกาย ควรรับประทานอาหารหลากหลายชนิด เป็นมื้อเล็กๆ แต่บ่อยๆ และไม่ควรทานอาหารในปริมาณมากในครั้งเดียว

3. การพักผ่อนให้เพียงพอ ขณะที่คุณตั้งครรภ์ ร่างกายค่อยๆ เปลี่ยนแปลง ดังนั้นคุณควรให้เวลาในการพักผ่อนที่เพียงพอแก่ตัวเอง เช่น นอนพักหลับเรื่อยๆ หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น ฟักกล้ามเนื้อหรือฝึกโยคะ

4. การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม คุณควรออกกำลังกายเบาๆ และทำระยะเวลาออกกำลังกายที่เพียงพอ อย่างเช่น เดินเพื่อบำรุงสุขภาพหรือเล่นกีฬาที่เหมาะสมในช่วงครรภ์

5. การรับประทานวิตามินและเครื่องแร่ที่เพียงพอ ควรรับประทานวิตามินและเครื่องแร่ที่แพทย์แนะนำ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร



การเจริญเติบโตของทารก


ในระยะกลางของการตั้งครรภ์, ทารกจะเริ่มเจริญเติบโตมากขึ้น นี่อาจทำให้คุณมีความรู้สึกของการเต้านมที่เพิ่มขึ้นอาการการเจริญเติบโตของทารกขณะท้องคือกระบวนการที่ทารกเติบโตและพัฒนาในระหว่างการตั้งครรภ์ สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้แก่:

1. การเจริญเติบโตของร่างกาย ทารกจะเติบโตและพัฒนาด้วยตนเองในระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มขนาดของทารกและอวัยวะต่างๆ

2. เปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ร่างกายของผู้หญิงจะปรับตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก โดยการสร้างฮอร์โมนเพิ่มขึ้น เช่น ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของทารก และการปรับตัวของระบบร่างกาย

3. สตรีมีพลังงานมากขึ้น ร่างกายของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์จะต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อรองรับทารกที่กำลังเจริญเติบโต ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายของผู้หญิงรู้สึกหนักและอ่อนเพลียขึ้น

วิธีแก้ไขอาการการเจริญเติบโตของทารกของคนท้อง

1. ดูแลสุขภาพร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสม่ำเสมอ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และอาหารที่มีโปรตีนสูง เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาที่ดีของทารก

2. ดูแลน้ำหนัก ควรให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นตามที่แพทย์แนะนำ เนื่องจากการเพิ่มน้ำหนักของทารกเป็นสัดส่วนกับสุขภาพของทารก

3. พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนเพียงพอช่วยลดอาการอ่อนเพลีย อย่างเช่น ให้เวลาในการนอนพักหลับเพียงพอและออกพักระหว่างกิจกรรมที่กระทำ

4. ปฏิบัติการออกกำลังกายเบาๆ ทำกิจกรรมที่ไม่หนักมากเช่น เดินเพื่อบำรุงสุขภาพ ว่ายน้ำเบา หรือเล่นโยคะ เพื่อช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารก

5. ปรึกษาแพทย์และการตรวจสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการเจริญเติบโตของทารกและสุขภาพของคุณ เพื่อตรวจสอบว่าทารกเติบโตและพัฒนาได้ตามปกติหรือไม่



การเพิ่มการดันของมดลูก


ในระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์, มีโอกาสที่คุณจะรู้สึกถึงการเพิ่มการดันของมดลูก ทำให้มีความรู้สึกหนักลงอาการการเพิ่มการดันของมดลูกของคนท้องนั้นมักเป็นอาการที่ส่งผลให้คุณรู้สึกไม่สบาย

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้แก่

1. เจตนาร้าย (Braxton Hicks contractions) เป็นอาการการดันของมดลูกที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมดลูกหรือกล้ามเนื้อรอบมดลูกเตรียมต้องการเตรียมตัวเพื่อการคลอด อาการเจตนาร้ายมักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระหว่างภาวะท้องครรภ์

2. การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนอ๊อกซิตอซินและโพรเจสเทอโรนในร่างกายของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มักเพิ่มขึ้น เมื่อฮอร์โมนเหล่านี้เพิ่มขึ้น อาจทำให้มดลูกของคุณเริ่มการดันเตรียมตัวในการคลอด

3. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายหนักหรือการเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้เกิดการดันของมดลูกเพิ่มขึ้น

วิธีแก้ไขอาการการเพิ่มการดันของมดลูกของคนท้อง

1. พักผ่อน การพักผ่อนให้ครั้งคราวช่วยลดการดันของมดลูก ให้คุณพักผ่อนในท่าที่สบายตัว เช่น นอนพักหลับหรือนั่งผ่อนคลาย

2. เปลี่ยนท่าที่นอน ถ้าคุณมีอาการมดลูกในขณะที่นอน ลองเปลี่ยนท่าที่นอน หรือตัดหรือเกร็งเมื่อมีอาการเพื่อช่วยควบคุมการดันของมดลูก

3. ดื่มน้ำเย็น ดื่มน้ำเย็นหรือหายากับน้ำเย็นสักครั้ง เพื่อช่วยลดการดันของมดลูก

4. ออกแรงงานเบาๆ หลีกเลี่ยงการทำงานหนักหรือออกแรงโดยเฉพาะในเวลาที่มดลูกของคุณเป็นเจตนาร้ายหรือมีการดันเพิ่มขึ้น

5. ปรึกษาแพทย์ หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับการดันของมดลูกหรือมีอาการที่ไม่ปกติ เช่น มีตัวอักเสบแปลกปลอม หรือมีการแล่นไปมาของมดลูกอย่างต่อเนื่อง คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและการตรวจสุขภาพ



การปวดร้าว


ในระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์, มีโอกาสที่คุณจะรู้สึกถึงการเพิ่มการดันของมดลูก ทำให้มีความรู้สึกหนักลงอาการปวดร้าวในคนท้องนั้นเป็นอาการที่พบได้บ่อยในระหว่างการตั้งครรภ์

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดร้าวได้แก่

1. เปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ระดับฮอร์โมนอ๊อกซิตอซินและเอสโทรเจนในร่างกายของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น อาการนี้สามารถทำให้ระบบเส้นประสาทและกล้ามเนื้อปวดร้าวได้

2.เส้นประสาทที่ถูกกด การเพิ่มขนาดของมดลูกและการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในร่างกายของคนท้องอาจทำให้เส้นประสาทถูกกดหรือรัดอักเสบ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอาการปวดร้าวได้

3. เปลี่ยนแปลงรูปร่างด้านล่างของร่างกาย การโตขึ้นของมดลูกทำให้รูปร่างของร่างกายเปลี่ยนไป อาจทำให้กล้ามเนื้อและเส้นประสาทในพื้นที่ล่างของลำตัวเหลืองงอ และที่ท้องอ่อนอาจเกิดอาการปวดร้าว

วิธีแก้ไขอาการปวดร้าวของคนท้อง

1. ท่าที่นอนที่ถูกต้อง ลองนอนและเปลี่ยนท่าที่นอนให้ความสบาย ลองใช้หมอนรองรับท้องหรือหมอนสลับฝั่งตอนที่นอน เพื่อช่วยลดความกดที่เส้นประสาทในพื้นที่ล่างของลำตัว

2. การออกกำลังกายเบาๆ การออกกำลังกายที่เป็นมิตรกับคนท้องเช่น การเดินเรือนเดินและการยืนช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อหลังเรียบร้อยและช่วยลดอาการปวดร้าว

3. การใช้ความร้อนหรือความเย็น นอนหลับบนพื้นร้อนหรือวางผ้าร้อนบนบริเวณท้อง หรือใช้หมอนเย็นเพื่อช่วยทำให้รู้สบายและลดอาการปวดร้าว

4.การนวดผ่อนคลาย การนวดหน้าท้องหรือหลังรอบก้น โดยใช้น้ำมันสำหรับนวดเบาเบอร์และพาสจ์ล ล้างท้องอ่อนโดยใช้น้ำอุ่นก่อน

5. คอยพักผ่อน มีการพักผ่อนอย่างเพียงพอและหาวิธีที่จะลดความเครียด พบเพื่อนหรือคนในครอบครัวและแบ่งปันความรู้สึกของคุณ

6. ปรึกษาแพทย์ หากคุณมีความกังวลหรืออาการปวดร้าวที่มีความรุนแรง คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและการตรวจสุขภาพ

การเผชิญกับอาการตั้งครรภ์เป็นส่วนสำคัญของการเป็นคุณแม่ ควรรักษาตนเองด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม, การออกกำลังกายที่เหมาะสม, และการพักผ่อนเพียงพอ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการเจริญเติบโตของทารกและความพร้อมของคุณเองในการเป็นแม่ใหม่


การอ้างอิง:


Mayo Clinic. (2020). Braxton Hicks contractions.

American Pregnancy Association. (2020). Round Ligament Pain During Pregnancy.
Mayo Clinic. (2018). Pregnancy Week by Week.
American Academy of Family Physicians. (2010). Patient Information: Pregnancy Discomforts.



ผลิตภันฑ์แนะนำ:


                                

Atom & Alice

Tag Cloud
PREGNANCY
SYMPTOMS
MOM
อาการ
ตั้งครรภ์
คุณแม่มือใหม่
คุณแม่
ทารก
อาการของคุณแม่
MOTHERS

Related Links

  • มิติใหม่! Love live ประกาศเปิดเกมพร้อมปิดเกมในโพสเดียวกัน | H3cHub
    มิติใหม่! Love live ประกาศเปิดเกมพร้อมปิดเกมในโพสเดียวกัน

    Niponpan Sasidhorn3 months ago

    154 VIEWS

  • มาเรื่อยๆ เหมือนกันครับ! Tiktok เลิกจ้างพนักงานลดค่าใช้จ่ายอีกระรอก | H3cHub
    มาเรื่อยๆ เหมือนกันครับ! Tiktok เลิกจ้างพนักงานลดค่าใช้จ่ายอีกระรอก

    Niponpan Sasidhorn3 months ago

    94 VIEWS

  • หน้าตาก็ดันคล้ายเกิ๊น! Pokemon company เปิดถ้อยแถลงถึง Palworld | H3cHub
    หน้าตาก็ดันคล้ายเกิ๊น! Pokemon company เปิดถ้อยแถลงถึง Palworld

    Niponpan Sasidhorn3 months ago

    90 VIEWS

  • ไหนอาการมันเป็นยังไง? เฟสบุ๊คชี้แจงสาเหตุล่ม-ทำไมแก้นาน | H3cHub
    ไหนอาการมันเป็นยังไง? เฟสบุ๊คชี้แจงสาเหตุล่ม-ทำไมแก้นาน

    Niponpan Sasidhorn2 years ago

    568 VIEWS

  • คุณพ่อคุณแม่ถูกใจสิ่งนี้! AI สุดจีเนียสเรียนรู้การกล่อมเด็กหลับแบบไร้รอยต่อ! | H3cHub
    คุณพ่อคุณแม่ถูกใจสิ่งนี้! AI สุดจีเนียสเรียนรู้การกล่อมเด็กหลับแบบไร้รอยต่อ!

    Niponpan Sasidhorn3 years ago

    1016 VIEWS

  • Social

    Link

    Articles

    application
    sports
    Contact Us
    • Address

      98/3 Soi Inthamara 10, Sutthisan Winitchai Road, Samsen Nai, Phaya Thai, Bangkok 10400

    • Phone

      + 668 1918 3262

    Copyright © 2020 Happy Three Creation co.,ltd. All Rights Reserved.