การเปลี่ยนโฉมใหม่ของ Twitter เป็น X กำลังดำเนินการอยู่ ชื่อและโลโก้รูปนกฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ได้ถูกถอดออกจากสำนักงานใหญ่ของบริษัทในซานฟรานซิสโก และตัว "X" ได้แทนที่นกฟ้าบน twitter.com

Elon Musk กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นมากกว่าแค่ชื่อ เขาต้องการเปลี่ยนบริการที่เดิมเรียกว่า Twitter ให้เป็น "แอพทุกอย่าง" ที่ครอบคลุมบริการด้านการธนาคารและการเงินด้วย

แต่การรีแบรนด์อาจก่อให้เกิดความท้าทายทางกฎหมายและการเงินที่สำคัญต่อบริษัท ซึ่งประสบปัญหาตั้งแต่การย้ายออกของผู้ลงโฆษณาทำให้รายได้จากโฆษณาของบริษัทลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ในการเริ่มต้น มีบริษัทหลายร้อยแห่ง รวมทั้ง Microsoft และ Meta ที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าสำหรับรูปแบบต่างๆ ของ “X” นั่นอาจเป็นการเปิดประตูสู่คดีความและปัญหาทางกฎหมายอื่นๆ สำหรับ Elon Musk ด้วย

Shubha Ghosh ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยซีราคิวส์กล่าวว่าการฟ้องร้องนั้นเป็นเรื่องปกติ เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่เปลี่ยนโฉมใหม่และเปลี่ยนชื่อและโลโก้ “ผมค่อนข้างประหลาดใจที่เขาเลือก X เพราะมันไม่ได้โดดเด่นขนาดนั้น” เขากล่าว “มันเป็นปัญหาในแง่ที่ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทำได้ในทันทีโดยไม่มีใครสังเกตเห็นและอาจฟ้องร้องได้”

Josh Gerben ทนายความด้านเครื่องหมายการค้าบอกกับรอยเตอร์ว่าเขานับบริษัทอื่น ๆ เกือบ 900 แห่งที่มีเครื่องหมายการค้าในชื่อ "X" และแม้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถอ้างได้อย่างน่าเชื่อถือว่าบริษัทที่เดิมชื่อ Twitter กำลังแทรกแซงแบรนด์ของพวกเขา แต่ทำให้ X เป็นเป้าหมายที่ง่าย

“มีความเป็นไปได้เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่ Twitter/X จะถูกฟ้องร้องโดยโจทก์ที่ เตรียมฉวยโอกาสจากช่องว่างทางกฎหมายเกี่ยวกับชื่อใหม่”

Gerben ทวีต “บริษัทสามารถใช้จ่ายเงินหลายสิบล้าน (หากไม่ใช่ 100+ ล้านดอลลาร์) ในค่าธรรมเนียมทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายในการยุติคดีเพื่อพยายามขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับ 'X' และในการจัดการกับการฟ้องร้องที่น่าจะเป็นผลมาจากการรีแบรนด์”

ด้วยเหตุผลเดียวกัน การสร้างแบรนด์ X ใหม่ของ Twitter อาจพิสูจน์ได้ยากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับสากล “โอกาสที่ Elon Musk จะสามารถจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับ 'X' สำหรับบริการทั้งหมดที่เขาตั้งใจจะให้บริการในทุกประเทศที่เขาต้องการให้บริการนั้นเป็นไปได้น้อยมาก” Gerben เขียน

แม้ว่า Twitter จะสามารถป้องกันความท้าทายทางกฎหมายได้ แต่ก็มีความเสี่ยงทางธุรกิจที่ร้ายแรงในการเลิกใช้แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเช่นเดียวกับ Twitter Bloomberg รายงานว่านักวิเคราะห์บางคนคาดว่าการเปลี่ยนชื่ออาจทำให้มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์หายไปจากแบรนด์ที่ได้รับความเสียหายจาก Musk

Ari Lightman ศาสตราจารย์ด้านการตลาดสื่อดิจิทัลแห่งมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon กล่าวว่าปัญหาของ Twitter นั้นไกลเกินกว่าความปวดหัวทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการรีแบรนด์ “มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ลดทอนคุณค่า อรรถประโยชน์ เอกลักษณ์ที่ Twitter ซึ่งตอนนี้ X มีอยู่ในนั้น” เขากล่าวโดยชี้ไปที่การเพิ่มขึ้นของ Threads และคู่แข่งรายอื่นของ Twitter “ทวีตมีความหมายเหมือนกันกับแนวคิดของบล็อก หรือไมโครบล็อก มันจะยากมากที่จะสร้างแนวคิดใหม่ทางสังคมกับประชากรทั่วโลก”