แม้ว่า Tesla จะกล่าวอ้างเกี่ยวกับความสามารถในการขับเคลื่อนด้วยตนเองเต็มรูปแบบของยานพาหนะ แต่เทคโนโลยีการนำทางอัตโนมัติในปัจจุบันจะถูกพัฒนาจนอยู่ในระดับสูง แต่ก็น่าจะยังอีกหลายปีกว่าจะปลอดภัยพอสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันโดยปกติ อย่างไรก็ตาม Seoul Robotics ได้พัฒนาเครือข่ายแบบ network ซึ่งจะใช้กับกลุ่มพาหนะ 

"ติดเซนเซอร์ตามโครงสร้างพื้นฐาน แล้วสร้างเครือข่ายคุมทั้งกลุ่ม"

ระบบหอคอยควบคุมของบริษัทก้าวข้ามความท้าทายทางเทคนิคบางประการของเทคโนโลยีการขับขี่ด้วยตนเองโดยการฝังเซ็นเซอร์ในโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบ เช่น สัญญาณไฟจราจร, อาคารต่างๆ, สะพานลอยบนทางด่วน ฯลฯ — แทนที่จะฝังตัวกับตัวรถเอง  แทนที่จะให้รถแต่ละคันมองหาตัวเองและตอบสนองต่อการจราจรโดยรอบโดยอัตโนมัติ หอคอยควบคุมจะใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์แบบ network เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การจราจรโดยรวมและทำให้ยานพาหนะในพื้นที่ทำงานโดยอัตโนมัติโดยใช้การสื่อสาร V2X และวิทยุ 4/5G

"ไม่ใช่แค่กับอย่างเดียวแต่เตรียมต่อยอดครบวงจรในธุรกิจ สาธารณะ"

HanBin Lee ซีอีโอของ Seoul Robotics กล่าวในแถลงการณ์ที่เตรียมไว้เมื่อวันอังคารว่า "ในท้ายที่สุด ระบบเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการตั้งค่าสาธารณะและธุรกิจเพิ่มเติม การขับเคลื่อนแบบต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา เช่น ที่จอดรถที่นำทางโดยอัตโนมัติ และการขนส่งสาธารณะ จะสามารถหาทางไปสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ได้มากมายตั้งแต่ศูนย์กระจายรถไปจนถึงพื้นที่เช่ารถยนต์"

"BMW ก็มีเริ่มเปิดใช้งานในพื้นที่ทดสอบ"

ขณะนี้ BMW กำลังทดลองใช้ระบบเพื่อจัดการโลจิสติกส์ของยานพาหนะที่โรงงานผลิตในมิวนิก ระบบดังกล่าวใช้ซอฟต์แวร์ SENSR ของ Seoul Robotics และเครือข่ายเซ็นเซอร์ LiDAR หลายร้อยตัวที่ฝังอยู่รอบโรงงานเพื่อเคลื่อนย้ายยานพาหนะที่สร้างขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติทั่วทั้งโรงงาน  เนื่องจากระบบมีจุดได้เปรียบจากแทบทุกมุม แทนที่จะเป็นเซ็นเซอร์ครึ่งโหลหรือมากกว่านั้นบนตัวรถ Control Tower จะสามารถนำทางยานพาหนะแต่ละคันโดยไร้จุดบอด และการจราจรข้ามได้อย่างง่ายดาย แม้จะ "ขับ" โดรนยานยนต์อื่นๆ หลายร้อยตัวพร้อมกัน